ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 19 May 2011
ตอบ: 14834
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 19, 2018 4:10 pm
[บทความ] ถ้าหงส์จะซื้อโกล ใครดี?
บทความนี้ผมเอามาจากเพจ Scouse Bastard เขาวิเคราะห์ข้อมูลของผู้รักษาประตูจากทีมท็อปในลีกใหญ่ของยุุโรป

ซึ่งบทความก็จะยาวๆ(มาก) ใครขี้เกียจอ่านข้อมููลหรือเห็นแล้วตาลายก็ข้ามสปอยไปที่ผมสรุปปข้างล่างได้เลยฮะ


Spoil
Scouse Bastard

ยัน โอบลัค จะช่วยแก้ปัญหาผู้รักษาประตูของลิเวอร์พูล?

ผมค่อนข้างจะตื่นเต้นมากหลังจากได้เห็นสถิติของ ยัน โอบลัค และเคยได้ตอบคอมเมนต์ในสักโพสต์ไปเมื่อวันก่อนว่า คิดไว้ว่าจะเขียนถึงเรื่องของโอบลัค และผู้รักษาประตู ที่มีข่าวกับทีมอย่าง อลิสซน เบ็กเคอร์ (แน่นอนว่าอย่างบัตแลนด์นั้นไม่ค่อยน่าตื่นเต้นมากจึงขอตัดออกไป)

ในส่วนของโอบลัคนั้นลิเวอร์พูลเคยที่จะเซ็นเขาได้แล้วเมื่อราว 8-9 ปีก่อน แต่ติดปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บของเขา มันก็เลยไม่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามผมเองไม่คิดว่าหากลิเวอร์พูลเซ็นเขาได้ในวันนั้น วันนี้เขาจะได้เป็นมือหนึ่งที่แอนฟิลด์อย่างแน่นอนอะไรแบบนั้น ผมคิดว่าทุกอย่างมันคงเดินไปตามทางของมันล่ะครัง

ข่าวที่น่าเชื่อถือได้ในระดับหนึ่งก็กล่าวว่าลิเวอร์พูลนั้นสนใจ หนึ่งในสองคนนี้จริงๆ โดยโอบลัคนั้นมีค่าฉีกสัญญาอยู่ราวๆ 90 ล้านปอนด์ (ประมาณๆ) ในขณะที่ อลิสซนนั้นไม่มีค่าฉีกสัญญา แต่ว่าประเมินค่าตัวอยู่แถวๆ 40-50 ล้านปอนด์

ผมเชื่อครับว่าถ้าหากลิเวอร์พูลต้องการที่จะเอาจริงๆ ราคานี้เขาจ่ายแน่นอน

เพียงแต่มันคุ้มค่าหรือเปล่า? เหมาะสมที่จะลงทุนหรือเปล่า? มันก็เป็นคำถามที่ทางสโมสรต้องหาคำตอบเพื่อการตัดสินใจ หรือว่าสโมสรจะเอาเงินมหาศาลอย่างนี้ไปทุ่มกับตำแหน่งอื่นแทน? อะไรคือจิ๊กซอตัวสุดท้ายของทีม?

ผมเลยอยากลองที่จะเอาสถิติของสโมสรต่างๆมาเปรียบเทียบกัน แล้วมาดูกันว่า โอบลัคก็ดี อลิสซนก็ดี ทำได้ยอดเยี่ยมแค่ไหน? และเขาน่าจะคุ้มค่าที่จะลองจ่ายเงินมหาศาลไปคว้าตัวมาหรือเปล่า?

มาลองดูกันครับ กดอ่านได้ทางคำบรรยายใต้ภาพเลยครับ


ในคราวนี้ผมจะเน้นค่าสถิติเป็นสถิติภาพรวมของสโมสรโดยจะคิดถึงแต่เกมในลีก เช่น มินโญเลต์ ลงเล่นไป 19 เกมในฤดูกาลนี้ และที่เหลืออีก 4 เกม คาริอุสลงเล่น ผมจะเอาสถิติของทั้งคู่มารวมกันแล้วมองเป็น สถิติของสโมสรลิเวอร์พูลแทน แบบนั้นน่ะครับ เนื่องจากคาริอุสก็ยังไม่ได้ลงเล่นมากนัก (4 นัดเท่านั้น) ถ้าเรามองแยกกันก็อาจจะทำให้ตัวเลขของคาริอุสนั้นเพี้ยนไปได้ และมันก็ไม่ได้มีประโยชน์มากนัก

อีกทั้งสถิติในหลายส่วนในที่นี้มาจากทีมมากกว่า ตัวนักเตะเฉพาะบุคคล อีกทั้งคาริอุสเองก็ลงไม่เยอะ และไม่ได้ทำให้สถิติของมินโญเลต์เพี้ยนไปนัก

______________________________________________________________________________


เปรียบเทียบคร่าวๆด้วยสถิติรวมทุกนัดที่แต่ละคนลงสนามในฤดูกาลนี้ (มีแค่คาริอุสที่นับรวมของฤดูกาลที่แล้วด้วย เพื่อให้กลุ่มตัวอย่างมีขนาดพอๆกัน)

พูดไปแล้วอายุของ โอบลัค (25) อลิสซน (25) คาริอุส (24) นั้นพอๆกัน ในขณะที่มินโญเลต์ (29) นั้นอายุมากกว่าเพื่อนอยู่คนเดียว ส่วนสูงเองนั้น โอบลัค (189) และ คาริอุส (189) สูงเท่ากัน ซึ่งเตี้ยกว่า มินโญเลต์ (193) และ อลิสซน (193) เล็กน้อย

ในเรื่องของการเสียประตูนั้น โอบลัค ทำได้น่าประทับใจมาก เขาลงสนาม 25 นัดในทุกรายการในฤดูกาลนี้ แต่เสียไปเพียง 12 ประตูเท่านั้น อลิสซนนั้น 20 ในขณะที่มินโญเลต์ที่ลงไป 19 นัดในฤดูกาลนี้ กับ คาริอุส (ที่รวมฤดูกาลที่แล้วเข้าไปด้วย) 20 นั้น เสียเกินกว่า 20 ประตูขึ้นไป

ในเรื่องของการเซฟ และอัตราการเซฟได้ (ในวงเล็บต่อท้าย) ทั้งโอบลัค และ อลิสซน นั้นก็ทำได้มากครั้งกว่า และในอัตราที่ดีกว่า ผู้รักษาประตูของลิเวอร์พูลทั้งคู่ทั้งสิ้น อย่างไรก็ตามอย่างที่ผมเคยนำเสนอไป ตัวเลขนี้ไม่อาจทำให้เราสรุปได้ว่า มินโญเลต์ หรือ คาริอุส นั้น ทำได้แย่กว่า เพราะว่าการเซฟนั้นมันเกี่ยวข้องมีความสัมพันธ์กับความยากง่ายของแต่ละลูกที่เจอด้วย (ลองคิดถึงกรณีสุดโต่งที่โกล์ต้องเจอ 10 ลูกยิงไกลกลางสนาม กับ 10 ลูกจุดโทษ)

เช่นกัน คลีนชีตนั้น โอบลัค ก็ยังคงทำได้ดีที่สุด โดยเขาเก็บคลีนชีตไปได้ถึง 15 นัดครับ (60% ของนัดที่ลงสนามเลยทีเดียว) แต่อย่างที่บอกครับว่ามันบอกอะไรไม่ได้มาก ในหลังจากนี้ไปผมจะพยายามสำรวจให้ลึกลงไปว่า มันเป็นผลกระทบมาจากการเล่นเกมรับของทีมด้วยหรือไม่

______________________________________________________________________________


รายชื่อทีมต่อไปนี้คือทีมที่ผมเลือกนำมาดูสถิติกันในคราวนี้ครับ

หากถามว่าเลือกมาอย่างไร ก็คงต้องบอกว่าผมจิ้มๆมาจากทีมที่อยู่ลำดับต้นๆของ 4 ลีกใหญ่ในยุโรป หรือทีมที่เสียประตูน้อยๆเป็นต้นน่ะครับ ไม่ได้มีแบบแผนอะไรมาก ได้มาทั้งสิ้น 22 ทีม ซึ่งผมคิดว่าก็น่าจะโอเคอยู่ในระดับนึงเลยกับจำนวนข้อมูลที่เราจะนำมาพิจารณากัน

ในช่อง Goalkeepers นั่นคือรายชื่อผู้รักษาประตูแต่ละคนที่ลงทำหน้าที่ วงเล็บนั่นคือจำนวนนัดที่ลงเป็นตัวจริง ส่วน +1 ของโป๊ปนั้นคือการที่เขาลงเป็นสำรองครับ

GA (Goal Against) ช่องสุดท้ายนั่นคือ ประตูที่เสียไปครับ ในที่นี้รายชื่อทีมก็จะถูกเรียงจากเสียประตูน้อยที่สุดไปมากที่สุดโดยไม่ได้คำนึงถึงจำนวนนัดที่ลงเล่นแตกต่างกัน (ถ้าหากคำนึงถึงจำนวนนัดด้วยลิเวอร์พูลจะขยับขึ้นแซงหน้าชาลเก้ ขึ้นไปครับ)






______________________________________________________________________________


ซึ่งนี่คือกราฟที่แสดงถึงการเสียประตูเมื่อคำนึงถึงจำนวนนัดที่ลงเล่นครับ

ลิเวอร์พูลขยับขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ยังเรียกได้ว่าอยู่ในย่านรั้งท้ายของกลุ่มทีมใหญ่ใน 4 ลีกนี้อยู่ดี

ส่วนแอตเลติโก มาดริด (โอบลัค) นั้นอยู่ในลำดับที่ 1 และโรม่า (อลิสซน) อยู่ในลำดับที่ 10

ในส่วนของลีกอังกฤษนั้นตอนนี้ เชลซีทำในเรื่องนี้ได้ดีที่สุด โดยอยู่ลำดับที่ 3 จากทีมในกลุ่มนี้ครับ









______________________________________________________________________________


ทีนี้เราลองมาดูข้อมูลชุดนี้บ้าง ข้อมูลที่หลายๆชอบนำมาใช้อ้างว่าผู้รักษาประตูลิเวอร์พูลนั้นทำผลงานได้แย่มาก (เทียบในลีกอังกฤษ) ซึ่งก็คือจำนวนครั้งในการเซฟต่อการเสียประตู (เซฟกี่ครั้งถึงจะเสียประตูสักหนึ่งลูก) เช่นเคยครับ ลิเวอร์พูลยังคงอยู่รั้งท้ายของตารางนี้

แต่บริเวณหัวตารางนั้นมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แน่นอนว่าแอตเลติโก มาดริด นั้นนำโด่งอยู่ในอันดับที่ 1 อันดับที่ 2 เป็นบาร์ซา (ทา ชเตเกน) เช่นเดิม แต่อันดับที่ 3 นั้นคราวนี้เป็นแมนยู (เด เฮอา) และตามมาอันดับ 4 ด้วยโรม่า ในขณะที่เชลซีนั้นตกลงไปอยู่ที่ 8 ครับ

แต่อย่างที่บอกไปในทุกๆครั้งว่า ตัวเลขการเซฟต่อจำนวนการเสียประตูนั้นบอกไม่ได้ว่า สิ่งที่ผู้รักษาประตูต้องเจอนั้นเป็นอย่างไร เช่น จังหวะที่ฝ่ายตรงข้ามยิงมานั้นมันเป็นลูกที่น่าจะรับยากแค่ไหน ทำให้ผมจะนำข้อมูลอีกแบบเข้ามาช่วยทำให้เห็นภาพชัดขึ้นด้วยดังต่อไปนี้ครับ


______________________________________________________________________________


ข้อมูลที่ว่าคือ xGA (Expected goal against) หรือคือ จำนวนประตูที่คาดหวังว่าจะเสีย ซึ่งมันเป็นแบบจำลองคนสร้างขึ้นเพื่อพยายามจะอธิบายว่าจังหวะการยิงในจังหวะนั้นๆมีความน่าจะเป็นประตูมากแค่ไหน

ในที่นี้ผมนำ จำนวนประตูที่คาดหวังว่าจะเสีย (แกนตั้ง) ที่แต่ละทีมถูกยิงจากระยะที่แตกต่างกันมาพล็อตรวมกันกับ ประตูที่แต่ละทีมเสียไปจริงๆ (แกนนอน) ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าตัวเลขจากแบบจำลองคือ ขำนวนประตูที่คาดหวังว่าจะเสียนั้นก็ทำนายจำนวนที่เสียจริงๆพอใช้ได้อยู่เหมือนกัน (ยิ่งเกาะกับเส้นตรงกลางก็ยิ่งหมายความว่ามันแม่นยำครับ)








______________________________________________________________________________


ตารางนี้จะใช้ค่า ShA (Shot against) จำนวนจังหวะยิงของฝ่ายตรงข้าม ที่แบ่งแยกออกมาเป็น นอกกรอบ ในเขตโทษ และในกรอบ 6 หลา เข้ามาผสมผสานกับค่าจำนวนประตูที่คาดหวังว่าจะเสีย (xGA) ครับ

ซึ่งผมจะนำเอาค่า จำนวนประตูที่คาดหวังว่าจะเสียนั้นหารด้วยจำนวนจังหวะยิงของฝ่ายตรงข้าม ซึ่งสิ่งที่เราจะได้ก็คือ ค่าความยากง่าย ของจังหวะที่ฝ่ายตรงข้ามยิงในแต่ละครั้งโดยเฉลี่ย โดยแบ่งได้ออกเป็นพื้นที่ นอกกรอบ ในกรอบ และในเขต 6 หลา

ตารางนี้จะเรียงกันโดย เรียงค่าจำนวนประตูที่คาดหวังว่าจะเสียต่อจำนวนจังหวะยิงของฝ่ายตรงข้ามในกรอบ 6 หลา จากค่ามาก (ซึ่งหมายถึง จังหวะที่ฝ่ายตรงข้ามยิงนั้นโอกาสรับได้ยาก) ไปหาค่าน้อย


ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นคือ ลิเวอร์พูลนั้นติดอยู่อันดับที่ 2 รองจายูเวนตุส (จังหวะที่ถูกยิงแต่ละครั้งโดยเฉลี่ยแล้วมีโอกาสเข้า 46%) ในขณะที่จังหวะถูกยิงบริเวณในเขตโทษของลิเวอร์พูลนั้นก็รับยากที่สุด (15%) ส่วนจังหวะนอกกรอบนั้นอยู่ในระดับกลางๆ (2.7%)

ในขณะที่แอตเลติโกนั้น ความยากนี้อยู่ในระดับกลางๆเท่านั้น และโรม่าก็มีตัวเลขที่น้อยกว่าอยู่พอสมควร อีกทั้งทั้งสองทีมนั้นยังถูกยิงในบริเวณกรอบ 6 หลา น้อยกว่าลิเวอร์พูลอีกด้วย

ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพเกมรับที่แตกต่างกันระหว่างลิเวอร์พูลกับทีมอื่นๆ

ลิเวอร์พูลนั้นดูจะเป็นทีมที่มีเกมรับใกล้เคียงกับ ดอร์ทมุน และ ชาลเก้ มากกว่า ซึ่งเมื่อเทียบกับทั้งสองทีมแล้ว ลิเวอร์พูลก็ยังเสียประตูในอัตราส่วนที่น้อยกว่าครับ

______________________________________________________________________________


ซึ่งนำมาสู่กราฟสุดท้าย คือผมนำข้อมูลการเซฟต่อจำนวนประตูที่เสีย (แกนตั้ง) มาพล็อตร่วมกับ จำนวนประตูที่คาดหวังว่าจะเสียต่อจำนวนจังหวะยิงของฝ่ายตรงข้าม (แกนนอน)

ในแกนนอนนั้นหมายความว่า ยิ่งมีค่ามาก จังหวะที่ผู้รักษาประตูเจอในแต่ละครั้งก็ยิ่งยาก ซึ่งจากทีมทั้งหมดที่เลือกมา ไม่มีผู้รักษาประตูทีมใดต้องเจอลูกยากมากเท่าลิเวอร์พูลอีกแล้ว

เมื่อนำมาพล็อตแบบนี้แล้วทำให้เราเห็นว่า มันมีแนวโน้มของมันอยู่ คือ ยิ่งทีมต้องเจอกับลูกยากมากๆก็ยิ่งมีโอกาสเซฟต่อการเสียประตูน้อยลง ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ค่อนข้างชัดเจนทีเดียว และเราก็ได้เส้นแนวโน้มมา (เส้นปะสีแดง)

แต่มันก็มีการแตกกลุ่มอย่างเห็นได้ชัดเหมือนกันครับมี 4 ทีมที่ไม่อยู่ในแนวโน้มเหมือนเพื่อน (นาโปลี บาเซโลนา แอตเลติโก มาดริด และ แมนยู) หากเราคิดว่าเส้นแนวโน้มนั่นคือมาตรฐานของผู้รักษาประตูทั่วไป (ซึ่งผู้รักษาประตูลิเวอร์พูลทำได้ตามมาตรฐานของเกมรับของทีม) ทีมที่อยู่ใต้เส้นแนวโน้มนั้นหมายความว่าผู้รักษาประตูเซฟได้น้อยเกินไป ในขณะที่ ทีมที่อยู่เหนือเส้นขึ้นไปนั้น ผู้รักษาประตูเซฟได้มากกว่าปกติ (ซึ่งเป็นเรื่องดี)

ทำให้เราได้ผู้รักษาประตูที่ยอดเยี่ยมกว่ามาตรฐานทั่วไปออกมา 3 คน คือ ทา สเตเกน โอบลัค และ เด เฮอา

และมันก็น่าสนใจเหมือนกันที่ตอนนี้มินโญเลต์เองก็มีข่าวว่าจะถูกดึงไปแทนเรน่า (อันที่จริงเป็นเรื่องตลกอยู่เหมือนกัน หากมินโญเลต์ไปเป็นตัวแทนเรน่าอีกรอบ) ที่ถ้าดูจากกราฟนี้แล้ว เขาทำได้ต่ำกว่ามาตรฐานไปอยู่เหมือนกัน

ตอนนี้ถ้าหากถามผมว่าเอาใครดี โป๊ปไหม? อลิสซนดีไหม? กูลักชีดีไหม? หากมองถามกราฟนี้แล้ว ผมก็ต้องบอกว่า ไม่ดีกว่าครับ ถ้าจะเอาเราควรจะต้องมองไปที่โอบลัคนู่นเลย

แน่นอนว่าวิธีแก้ไขนอกจากเปลี่ยนผู้รักษาประตูคือ เราอาจจะใช้ผู้รักษาประตูมาตรฐานทั่วไปแบบนี้ต่อไป แต่ยกระดับมาตรการเล่นเกมรับให้ฝ่ายตรงข้ามมีโอกาสเหน่งๆน้อยลง

ซึ่งมันมีความเป็นไปได้อยู่เหมือนกัน เพราะเมื่อมองในภาพรวมแล้ว คล็อปป์คงวางแผนเรื่องนี้มานาน (สลับคาริอุสมาเป็นมือหนึ่ง) และ ฟาน ไดจก์ น่าจะเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่น่าจะช่วย หรือคล็อปป์หวังจะให้ช่วยไขเกมรับของทีมให้แน่นขึ้นอีก

ซึ่งเมื่อมองไปแล้วผมคงหวังว่าทีมจะสามารถไขเกมรับให้แน่นขึ้นให้ได้ก่อนน่าจะดีกว่า โดยให้ค่าจำนวนประตูที่คาดหวังว่าจะเสียต่อจำนวนจังหวะยิงของฝ่ายตรงข้าม ลดลงจาก 0.13 ลงไปเหลือสัก 0.11 หรือ 0.10 เท่าๆกับทีมท็อปๆในพรีเมียร์ลีกก่อน แล้วเรามาดูกันว่าคาริอุสจะยังเซฟได้อยู่เป็นอัตราเท่าเดิมหรือไม่ ถ้าดีขึ้นเราก็อาจจะไม่จำเป็นต้องลงทุนถึงระดับ 90 ล้านปอนด์ก็ได้ (เกมรับระดับแมนซิตี้ หรือท็อตแนมก็ไม่ได้แย่ใช่ไหมครับ)

แต่ถ้าถามว่าผมอยากได้ โอบลัคไหม ยิ่งเห็นแบบนี้แล้วยิ่งอยากได้แน่นอนครับ เพียงแต่บางทีมันก็ไม่มีอะไรการันตีได้เหมือนกันว่า โอบลัค ที่เคยเจอแต่ลูกยิงที่มีค่าคาดหวังระดับ 0.09 หากมาเจอลูกยิงระดับ 0.13 แบบที่ลิเวอร์พูลเป็นแล้ว เขาจะทำผลงานเป็นอย่างไร แถมยังมีการเปลี่ยนลีกอีก สไตล์การเล่นของทีมก็เปลี่ยนไป มีแต่เรื่องที่เสี่ยงๆอยู่เหมือนกัน (กับการลงทุนระดับ 90 ล้าน)

ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือ พัฒนาเกมรับขึ้นมาก่อน แล้วเราจะได้รู้กันว่า ปัญหาจริงๆ มันอยู่ที่ผู้รักษาประตู หรือว่าเกมรับของทีมที่ปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามมีโอกาสดีดีง่ายๆกันแน่ และหากปัญหามันอยู่ที่ผู้รักษาประตูจริง ก็ไปจ่ายเงินคว้าจิ๊กซอสุดท้ายนั้นมาเถิด
 


สั้นๆก็คือการเซฟของผู้รักษาประตูนั้นขึ้นอยูู่กับความยากง่ายของแต่ละลูกที่ยิงมาด้วย

ซึ่งจากกราฟข้างล่างก็คือจำนวนครั้งที่เซฟจนกว่าจะเสียประตู 1 ครั้ง เทียบกับความยากของลูกที่ยิงมานั่นเอง



แกนนอน : ประตูที่คาดว่าจะเสียต่อจังหวะการยิงของฝ่ายตรงข้าม
ยกตัวอย่างง่ายๆเช่นลิเวอร์พูล (เฉลี่ยทั้งมินกับอู๊ด) ลููกยิงแต่ละลูกที่ยิงมามีโอกาสเสีย (หรือบอลเข้าประตูนั้นแหละ) อยู่ที่ประมาณ 13% โดยเฉลี่ย ส่วนเด เกอาอยู่ที่ 11% ส่วนโอบลัคอยู่ที่ 9% (ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้คิดผลของการเซฟนะ) (ซึ่งความยากง่ายก็มาจากหลายปัจจัย เช่น ระยะที่ยิงมา มุมยิงกว้างมั๊ย มีตัวมาช่วยบล็อคเปล่า เป็นต้น)


แกนตั้ง : จำนวนครั้งที่เซฟต่อประตูที่เสีย
การเซฟนั้นมินนี่และอู๊ด เซฟได้แค่ 1 ครั้งกว่าๆ ลูกต่อไปก็เสียประตูละ ส่วนโอบลัค เด เกอา และสเตเกนนั้นเซฟหลายทีมากๆ ถึงจะเสียประตู


ดูจากเส้นประสีแดงจะเห็นแนวโน้มเลยว่าผู้รักษาประตูทั่วไปรวมถึงคนที่มีข่าวกับลิเวอร์พููลส่วนใหญ่ก็เกาะกลุ่มอยู่ในแนวนี้ ซึ่งมันก็ตามหลักความจริงอยู่ที่ว่าลูกมายากก็เสียง่าย ลููกมาง่ายๆก็เซฟชิวๆ ซึ่งไม่มีผู้รักษาประตููคนไหนจะเจอลูกยากไปกว่ามินกับอู๊ดอีกแล้ว (ลูกง่ายพวกมันก็เสียอยู่ดีนี่หว่า ) ซึ่งทั้งคู่ก็อยู่ในแนวโน้มมาตรฐาน

แต่มีที่ไม่เข้าพวกอยู่ 4 คน คนแรกเลยคือเฮียเหม่งเรานี่เอง เรน่า (นาโปลี) ต่ำกว่ามาตรฐานเฉยเลย

ส่วนอีก 3 คน เรียกว่าสููงกว่ามาตรฐานลิบ คือเด เกอา / แท สเตเกน / โอบลัค

ซึ่งใน 3 คนนี้ก็มีโอบลัคนี่แหละที่พอจะมีความเป็นไปได้ที่จะซื้อมา

ในบทความก็เลยบอกว่าถ้าจะต้องซื้อโกลแล้วละก็ยอมจ่ายแพงเอาโอบลัคไปเลยดีกว่า


แต่อย่างไรก็ตาม โอบลัคที่เซฟกระจุยตอนเจอลูกยิงระดับ 9% อาจจะไม่โหดเหมือนตอนเจอลูกยิงระดับ 13% ถ้ามาลิเวอร์พููล

มันก็มีหลายปัจจัยอีกมาก ทั้งโค้ชใหม่ ย้ายลีกอีก บลาๆๆ อาจจะยังเก่งเหมือนเดิมหรือเก่งกว่าเดิมก็ได้

ยังมีอีกวิธีนึงที่ไม่ต้องซื้อประตูใหม่ตอนนี้ก็คือ ขันเกมรับให้แน่นขึ้น ลดระดับลูกยิงมาจาก 13% ให้เหลือ 11% ก็ยังดี


https://www.facebook.com/scousebastard/posts/566690193672973

___________________________________________________________________________

ส่วนกราฟข้างล่างนี้เป็นอีกบทความของเพจทำไว้ก่อนหน้านั้น เป็นเปรียบเทียบกับในพรีเมียร์ลีกด้วยกัน

ต่างกันนิดหน่อยตรงนิยามแกนกับสลับแกนกันกับรูปข้างบน






เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 10956
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 19, 2018 4:12 pm
[RE: [บทความ] ถ้าหงส์จะซื้อโกล ใครดี?]
โอบลัค
0
0

เข้าร่วม: 16 Mar 2007
ตอบ: 8385
ที่อยู่: ซานติอาโก้ เบอนาบิว
โพสเมื่อ: Fri Jan 19, 2018 4:14 pm
[RE: [บทความ] ถ้าหงส์จะซื้อโกล ใครดี?]
ออสปิน่าของอาเซน่อล
0
0
เข้าร่วม: 21 Mar 2010
ตอบ: 2107
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 19, 2018 4:16 pm
[RE: [บทความ] ถ้าหงส์จะซื้อโกล ใครดี?]
โกลละอ่อนเบนฟิก้า ที่เตะกะแมนยูครับ ทรงดี ปฏิกริยาไว ลืมชื่อละ ลองเอาปั้นดู ผมว่าเด2แน่นวลลลล

# แฟนผีครับ
0
0
เข้าร่วม: 19 May 2011
ตอบ: 14834
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 19, 2018 4:29 pm
[RE: [บทความ] ถ้าหงส์จะซื้อโกล ใครดี?]
takeshi12 พิมพ์ว่า:
โกลละอ่อนเบนฟิก้า ที่เตะกะแมนยูครับ ทรงดี ปฏิกริยาไว ลืมชื่อละ ลองเอาปั้นดู ผมว่าเด2แน่นวลลลล

# แฟนผีครับ  

จากมุมมองของคนเขียน แฟนบอลรวมถึงผมเอง น่าจะคลอปและบอร์ดบริหารด้วย

คิดว่าลิเวอร์พูลไม่มีเวลามาปั้นผู้รักษาประตููให้หวังว่าจะเทพแล้วละฮะ ก็คือไม่ยอมรับความเสี่ยงนั่นแหละ

เพราะตอนนี้เป็นปัญหาที่ซีเรียสมากๆ แล้วบอร์ดกับคลอปก็เริ่มจริงจังเรื่องนี้แล้วด้วย
0
0


เข้าร่วม: 11 Jul 2010
ตอบ: 40454
ที่อยู่: DD จงเจริ้ญ!!!
โพสเมื่อ: Fri Jan 19, 2018 4:34 pm
[RE: [บทความ] ถ้าหงส์จะซื้อโกล ใครดี?]
แผล่บหมด
0
1

เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 1043
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 19, 2018 4:35 pm
[RE: [บทความ] ถ้าหงส์จะซื้อโกล ใครดี?]
แฟนผีแผล่บให้ครับ กราฟดูง่ายดี แต่เล็กไปนิด
0
0
เข้าร่วม: 28 Dec 2017
ตอบ: 5003
ที่อยู่: โอลด์แทรฟฟอร์ด, แมนเชสเตอร์
โพสเมื่อ: Fri Jan 19, 2018 4:38 pm
[RE: [บทความ] ถ้าหงส์จะซื้อโกล ใครดี?]
ผมว่าถ้านำเข้าโค้ชผู้รักษาประตูดีๆจะตอบโจทย์ครับ เพราะสองคนนี้ก่อนมาหงษ์ฟอร์มใช้ได้เลยนะครับ เเต่พอมาหงษ์เท่านั้นเเหละ เหวอกว่าเดิมทันที
0
0
"การได้ชัยชนะไม่ใช่ซึ่งทุกสิ่ง เเต่ความปรารถนาที่จะชนะนั่นเเหละที่ใช่..."
Vince Lombardi

ผมไม่รู้หรอกว่ากุญแจแห่งความสำเร็จคืออะไร แต่กุญแจแห่งความล้มเหลวคือการพยายามทำให้ทุกคนพอใจ
- Bill Cosby

When I drift off, I will dream about you. It's always you.
- Tony Stark

ทำไมฉันต้องขอโทษที่ตัวเองกลายเป็นปีศาจ ในเมื่อไม่มีใครเคยขอโทษที่ทำให้ฉันเป็นเเบบนี้
- Joker
เข้าร่วม: 11 Jan 2011
ตอบ: 13721
ที่อยู่: สิ่ง เหล้ าห นี
โพสเมื่อ: Fri Jan 19, 2018 4:43 pm
[RE: [บทความ] ถ้าหงส์จะซื้อโกล ใครดี?]
ถ้าดูตามสถิติการป้องกันเป็นหลัก ในกลุ่ม keeper ที่มีลุ้นซื้อได้ก็โอบลัคนี่ล่ะ
แต่ถ้าดูจากสไตล์การเล่นของคลอปป ผมมองที่การเป็น outfield player มากกว่านะ
คือประตูจะต้องเป็นมากกว่าการยืนป้องกันเฝ้าเสา รวมถึงอ่านเกมแล้วสวิทช์บอลจากรับเป็นรุกได้ทันทีด้วย
ตรงนี้ตัดโปเป้ได้เลย เป็นพวกยืนป้องกันแถมประสบการณ์ยังน้อย ความเสี่ยงสูง
โอบลัค 50/50 ปัญหาคือค่าฉีกสัญญาแพง แต่ข้อดีคือถ้าเงินถึงก็แทบจะไม่มีทีมใหญ่มาแย่งเลย
ดอน อายุก็ยังน้อยแต่ค่าตัวสูง ไม่คุ้มเสี่ยง แถมเจ้าตัวดูจะชอบเมืองศิวิลไรซ์มากกว่า
อลิสซอน ตัวนี้ตอบโจทย์หมด ทั้งปฏิกิริยา การอ่านเกม การเปลี่ยนจังหวะเกม ปัญหาคือ ข่าวว่า PSG จ้องอยู่
0
0


ได้
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 20500
ที่อยู่: Anfield
โพสเมื่อ: Fri Jan 19, 2018 4:49 pm
[RE: [บทความ] ถ้าหงส์จะซื้อโกล ใครดี?]
ไม่ค่อยเห็นด้วยกับบทความนี้ขนาดนั้น เพราะวิธีที่ใช้คำนวนความยากง่ายเสียประตูไม่แม่น

เพราะบางทีจุดเริ่มต้นของประตูที่ว่าเสียแน่ๆ โอกาสเสียเยอะ

มันเริ่มมาจากการที่โกลไม่ออกมาตัดบอล หรือตัดบอลพลาดด้วย

มินโยเล่ออกมาชกว่าว หรือรับกระฉอก หรือลูกเตะมุมแล้วไม่ออกมาตัด บลาๆ

ทำให้บอลมันตกใจจุดขลุกขลิกในกรอบเป็นประจำ ในอย่างที่เราเห็นกันจนเอือม
0
0
เข้าร่วม: 13 Feb 2010
ตอบ: 6594
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 19, 2018 4:52 pm
[RE: [บทความ] ถ้าหงส์จะซื้อโกล ใครดี?]
สังเกตเอานะครับว่า ตอน มินนี่ กับ คาริอุส ก่อนมา คือ มือ 1 จากทีมทั้งคู่ แล้วเซฟจนโดนลิเวอร์พูลซื้ออะ แสดงว่า พวกนี้คงเหนียวพอตัวแหละ สำหรับผมต้องหา โค้ชผู้รักษาประตู อะ ทำไมคิดว่าคนฝึกสอนสำคัญพอๆๆกับคนลงเล่นเลยนะ


โอบลัค เหนียวจริงนะครับ ถ้าซื้อก็ต้องโกล ระดับตัวท๊อปไปเลย ลิเวอร์อะ ถ้ามารอปั้นจนเก่งคงไม่ไหว

ปล.ผมแฟนผีนะ
เข้าร่วม: 23 Aug 2008
ตอบ: 977
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 19, 2018 5:08 pm
[RE: [บทความ] ถ้าหงส์จะซื้อโกล ใครดี?]
ผมว่าบทวิเคราะห์มันวัดกันลำบากอะครับ ปัจจัยแวดล้อมแต่ละทีมมันต่างกัน
ทีมเน้นรับ ก็จะเสียประตูยากหน่อย กองหลังดีก็จะเสียประตูยากกว่า

ดูพวกพื้นฐานเบสิก ปฎิกิริยาดีกว่ครับ หรือไปจัดโกลในพรีเมียลีกมาซักตัวก็ได้ครับ
ผมว่าทีมกลางๆตารางโกลดีๆหลายตัวเรย

คือ โกลในพรีเมียลีกอยู่แล้วจะได้เปรียบเรื่องทางบอลนะครับ มีประสบการกับการเจอกองหน้าในพรีเมียลีคเยอะแล้ว พอจะรู้ทาง
0
0
เข้าร่วม: 11 Feb 2016
ตอบ: 28143
ที่อยู่: ดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์ โลก เข้าร่วม: 13 Feb 2005
โพสเมื่อ: Fri Jan 19, 2018 5:19 pm
[RE: [บทความ] ถ้าหงส์จะซื้อโกล ใครดี?]
Barcelonistu พิมพ์ว่า:
แผล่บหมด  


อะให้ 7 แผล่บครับ
0
1
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 2415
ที่อยู่: United Kingdom
โพสเมื่อ: Fri Jan 19, 2018 5:22 pm
[RE: [บทความ] ถ้าหงส์จะซื้อโกล ใครดี?]
ตัดเด เคอา ,คูร์กตัว ,สเตเกน ,นอยเออร์ที่โอกาสได้ยากมากออกไป
โอบรัคน่าจะดูเป็นไปได้ที่สุดแล้วมั้งครับ แต่ก็ต้องทุ่มอะ
แล้วก็ตามที่หลายคนบอก ว่าผู้รักษาประตูที่ลิเวอร์ซื้อ
ก็ฟอร์มดีก่อนที่จะย้ายมา แต่พอมาแล้วก็มีเหวอทุกคน
ไม่รุ้เป็นเพราะอะไร หรือจะต้องเปลี่ยนที่โค้ชประตูด้วย
1
0
เข้าร่วม: 23 Mar 2010
ตอบ: 45929
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 19, 2018 5:35 pm
[RE: [บทความ] ถ้าหงส์จะซื้อโกล ใครดี?]
อยากได้โอบลัค
0
0
เข้าร่วม: 30 Oct 2010
ตอบ: 56298
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 19, 2018 5:43 pm
[RE: [บทความ] ถ้าหงส์จะซื้อโกล ใครดี?]
Ryujin พิมพ์ว่า:
อยากได้โอบลัค  


#SaveKarius
0
1
เข้าร่วม: 19 May 2011
ตอบ: 14834
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 19, 2018 6:08 pm
[RE: [บทความ] ถ้าหงส์จะซื้อโกล ใครดี?]
Ryujin พิมพ์ว่า:
อยากได้โอบลัค  

อยากได้ทูจินด้วย


เข้าร่วม: 06 Apr 2014
ตอบ: 9791
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 19, 2018 6:12 pm
[RE: [บทความ] ถ้าหงส์จะซื้อโกล ใครดี?]
takeshi12 พิมพ์ว่า:
โกลละอ่อนเบนฟิก้า ที่เตะกะแมนยูครับ ทรงดี ปฏิกริยาไว ลืมชื่อละ ลองเอาปั้นดู ผมว่าเด2แน่นวลลลล

# แฟนผีครับ  

เจ้านี่ผมว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกของตราหมี ที่จะเอาไปปั้นนี่แหละ ถ้าทีมต้องขายโอบลัค ผมว่าเป็นไปได้สูงเลย ส่วนทีมใหญ่ทีมอื่นคงไม่กล้าเสี่ยง ไม่มีคู่มือปั้นประตู555
0
0
เข้าร่วม: 12 Aug 2016
ตอบ: 588
ที่อยู่: นราธิวาส
โพสเมื่อ: Fri Jan 19, 2018 6:15 pm
[บทความ] ถ้าหงส์จะซื้อโกล ใครดี?
ไม่รู้ว่าจะยังไง ผมมองว่าโรเมโรไม่ได้น่าเกลียดเลย อีกอย่างตอนนี้แกต้องการย้ายเพื่อบอลโลก ผมว่าแกมือหนึ่งลิเวอร์พูลเลย แม้ว่าช็อตปาฏิหาริย์อาจไม่เท่าเด แต่ลูกง่ายๆกินแกยากนะครับ ปีที่ได้แชมป์ยูโรป้านั้นแกไม่ฟลุกแน่นอน แถมโอกาสได้ตัวน่าจะมากกว่าโอปลัครายนั้นฉายแสงแล้ว ทีมอื่นแจมแน่นอน
เข้าร่วม: 13 May 2009
ตอบ: 342
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 19, 2018 7:07 pm
[RE: [บทความ] ถ้าหงส์จะซื้อโกล ใครดี?]
ใช้ GK เดิมทั้งหมด แล้วลองเปลี่ยน "โค้ช GK" คนใหม่ (อยากได้ Ray Clemence อดีตตำนาน)

น่าจะ..วัดผล...ได้ง่ายกว่าไหม?
0
0
เข้าร่วม: 19 Apr 2015
ตอบ: 1491
ที่อยู่: โค้ชคีบอร์ด ปสก.เฝ้าบอร์ด SS มา 9 ปี ไม่มี license
โพสเมื่อ: Fri Jan 19, 2018 7:26 pm
[RE: [บทความ] ถ้าหงส์จะซื้อโกล ใครดี?]
romeotc พิมพ์ว่า:
ไม่รู้ว่าจะยังไง ผมมองว่าโรเมโรไม่ได้น่าเกลียดเลย อีกอย่างตอนนี้แกต้องการย้ายเพื่อบอลโลก ผมว่าแกมือหนึ่งลิเวอร์พูลเลย แม้ว่าช็อตปาฏิหาริย์อาจไม่เท่าเด แต่ลูกง่ายๆกินแกยากนะครับ ปีที่ได้แชมป์ยูโรป้านั้นแกไม่ฟลุกแน่นอน แถมโอกาสได้ตัวน่าจะมากกว่าโอปลัครายนั้นฉายแสงแล้ว ทีมอื่นแจมแน่นอน  

โดนใจเลยท่าน โรเมโร่กับออสปินน่า อยากได้มายืนมือ 1 ให้หงส์จริงๆ....
0
0
เข้าร่วม: 01 Jun 2016
ตอบ: 8636
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 19, 2018 7:37 pm
[RE: [บทความ] ถ้าหงส์จะซื้อโกล ใครดี?]
โอบลัคจะมารึเปล่าอีกเรื่องนึงนะ ยกเว้นอัดค่าเหนื่อยให้เยอะๆ แต่100ล้านยูโร หมีเอาไปทำอะไรได้อีกเยอะเลย แต่หลังๆหมีก็เริ่มรั้งนักเตะแล้ว
0
0
เข้าร่วม: 11 Jul 2010
ตอบ: 40454
ที่อยู่: DD จงเจริ้ญ!!!
โพสเมื่อ: Fri Jan 19, 2018 8:50 pm
[RE: [บทความ] ถ้าหงส์จะซื้อโกล ใครดี?]
emula122 พิมพ์ว่า:
Barcelonistu พิมพ์ว่า:
แผล่บหมด  


อะให้ 7 แผล่บครับ  
ขอบคุณ
0
0

เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 9269
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 19, 2018 10:16 pm
[RE][บทความ] ถ้าหงส์จะซื้อโกล ใครดี?
หายเมาละจะเข้าไปอ่านโดยละเอียดครัช
0
0